ครั้งนี้ต้องเดินทางไปสัมภาษณ์ถึงที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ที่อยุธยา ขอบอกว่าไกลมาก
เพราะต้องเดินทางจากสถาบันถึงนู่น ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเห็นจะได้
โฮกกกกก แล้วแดดก็ร้อนมากถึงมากที่สุด ที่นิคมนี่มองไปยังไม่เห็นต้นไม้ซักต้น มีแต่พิ้นปูนและแดดเท่านั้น
อ่อ มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน อยู่ในซอกหลืบของแต่ละโรงงานด้วย เฮ้ออ(ปาดเหงื่อ)
ใครที่จะมาทำงานที่นี่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า คุณต้องมีรถส่วนตัวเพื่อความสะดวกสบาย
เพราะในนิคมนี้ ไม่มีร้านข้าว ไม่มีหอพัก ไม่ใช่ย่านที่พักอาศัย มันคือนิคมที่ไม่มีอะไรเลย
นอกจากโรงงาน โรงงาน แล้วก็โรงงาน คุณต้องขึ้นพี่วินเข้าไปข้างใน และคุณต้องขอเบอร์
พี่วินคนนั้นไว้ด้วย เพราะขากลับ แน่นอนว่าไม่มีพี่วินนั่งเก๊กรอคุณหน้าโรงงานแน่นอน
อาจเป็นครั้งแรกที่คุณต้องขอเบอร์ผู้ชายโดยไม่มีอาการเขินอายเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
และจะเป็นอันตรายอย่างมาก หากต้องทำ OT ถึงมืดค่ำ เพราะฉะนั้น มีรถเถอะ ขอร้องเลย
ครั้งที่ 2 นี้คุณจะต้องทำแบบทดสอบ IQ, EQ และพื้นฐานภาษาอังกฤษด้วย(เป็น choice)
อันนี้ก็ชิวๆ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่ประเด็นที่น่ากลัวคือการสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ
เมื่อเข้าไปเผชิญหน้าแล้ว วันนี้เราพบกับคนสัมภาษณ์ซึ่งเค้าเป็นใครก็ไม่รู้ หน้าแบบคนไทยมากๆ
แต่น่าจะเป็นมาเลเซียมั้ง เค้าพูดอิ้งแบบไวมากกกกกก แล้วงึมงำอยู่ในคอ พูดเบาๆ พูดรัวๆ
เหมือนพวกแขกเลยง่ะ ฟังไม่รู้เรื่องเลย โชคดีมีพี่ไทยคนนึงช่วยทำหน้าที่เป็นล่ามแปลให้
ครั้งที่แล้ว เราเจอกับคนเยอรมัน(ซึ่งหน้าก็เหมือนคนไทยอีกนั่นแหละ) สำเนียงเค้าฟังรู้เรื่องกว่าอ่ะ
แล้วเหมือนจูนกันติดคือ เราพยายามพูดเพื่อที่จะให้เค้าเข้าใจเรา เค้าก็พยายามที่จะให้เราเข้าใจเค้า
แล้วคนนี้เค้าดีมากเลย พยายามให้กำลังใจตลอด มีอยู่ประโยคนึงที่เราพูดไม่ออก
นึกศัพท์ไม่ได้เลย มะรู้จะพูดยังไงดี เค้าก็เชียร์อัพเราตลอดว่า เนี่ย คุณต้องทำได้
คุณพูดได้ดีมาก เพียงแต่คุณไม่กล้า ทำให้เรารู้สึกดีในการสัมภาษณ์ครั้งแรกจริงๆ
นอกเรื่องและ มาต่อที่การสัมภาษณ์ครั้งที่ 2 ประเด็นที่เค้าถามเรามีดังนี้
1.โชว์ผลงานที่เรามีให้ดู
มีอะไรก็โชว์ไปให้หมดเลยคับพี่น้อง ไม่มีตัวโปรแกรมก็โชว์อินเตอร์เฟซเฉยๆก็ได้ เราก็โชว์ให้เค้าดูนะ
แต่เหมือนเค้าไม่ค่อยมีความกระตือรือล้นที่จะดูซักเท่าไหร่ เราก็เลยไม่ได้อธิบายตัวโปรแกรมให้เค้าฟัง
อันที่จริงเราก็เตรียมมาหมดแล้วแหละที่จะอธิบายว่าโปรแกรมทำงานอย่างไร คลิกอันนี้แล้วเกิดไรขึ้น
แต่วันนั้นมันเฟลยังไงไม่รู้ คือ เดินทางมาเหนื่อยมาก แล้วเค้ายังถามอีกว่า 12,000 นี่ลดได้อีกมั้ย -*-
2.คุณรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทนี้บ้าง
ก็ตอบๆเท่าที่เรารู้ไป นิดนึงก็ยังดีกว่าไม่รู้เลยน๊า เพราะงั้นควรศึกษาไว้บ้างก่อนไปสัมภาษณ์ล่ะ
3.ถามเรื่องที่เราถนัด
ถามอีกแล้วว่า จะมีการวางแผนที่จะสร้างเวบอย่างไร ก็อธิบายๆไป
4.ถามเจาะลึกลงไปเกี่ยวกับผลงานที่เราแสดง
ประมาณว่าออนไลน์ได้มั้ย ติดต่อกับ paypal ได้ป่าว ใช้อะไรสร้าง โปรเจ็คเสร็จรึยัง บลาๆๆๆ
5.ถามเรื่องเริ่มงาน
เริ่มงานได้เมื่อไหร่ ถ้าให้เปลี่ยนหน้าที่ไปทำโปรแกรมเมอร์จะโอเคมั้ย บลาๆๆๆ
6. มีคำถามอะไรมั้ย
ข้อนี้ขอบอกเลยว่าคุณต้องถามนะ เพื่อแสดงให้เค้าเห็นว่าเราสนใจในบริษัทเค้า สนใจที่จะทำงานกับเค้า
แสดงความกระตือรือล้นออกมา เราก็ถามไปว่า คิดจะขยายสาขาเพิ่มมั้ย? แล้วมีการแบ่งงานให้แต่ละสาขายังไงบ้าง??
7. จิปาถะ
คุยกันเรื่องทั่วๆไป เค้าถามว่าเดินทางมาถึงนี่ได้ไง ก็บอกว่ารถตู้ แล้วแบบไกลมาก ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
(แต่ที่จริงล่อไป 3 ชั่วโมง) คำนวณเวลาผิดไป 555 ถามว่าส่วนใหญ่นี่มีลาดกระบังเยอะใช่มั้ย
บลาๆๆๆๆๆ สัพเพเหระ ทั่วไป
ครั้งนี้เราพูดอิ้งบ้าง ไทยบ้าง เพราะฟังอิ้งไม่รู้เรื่องจริงๆ อาการหนักมาก ไอ้ที่เตรียมท่องไว้
ไม่ได้เอามาใช้เล้ยยยย ให้พี่ไทยช่วยแปล แล้วก็พูดเป็นอิ้งกลับไป คิดว่าเคยคุยกับฝรั่งแล้ว
ฟังรู้เรื่องกว่านะ เพราะฝรั่งเค้าจะพูดช้า เน้นคำ ให้เราเข้าใจ
หลังจากสัมภาษณ์ครั้งนี้แล้ว
มันทำให้เราได้ความมั่นใจกลับมามากขึ้น จากที่คิดว่าจะหางานทำไม่ได้แน่ๆ ก็คิดใหม่ว่า
ได้งานทำแน่ๆ แต่อาจจะช้าหน่อยเท่านั้นเอง แต่ถ้าเราไม่เลือกงาน ก็คงได้งานเร็ว
แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ตกงานแน่นอน จากที่วางแผนตอนแรกคือ ได้งานปุ๊บ จะเอาปั๊บเลย
เพราะกลัวตัวเองจะตกงานอยู่คนเดียวในขณะที่เพื่อนๆเค้าได้งานกันหมดแล้ว
ก็เปลี่ยนความคิดนั้นใหม่ว่า เลือกงานที่เราอยากจะทำจริงๆดีกว่า ให้เราไปทำอะไรที่ไม่ถนัด
มันก็ทรมานกาย ทรมานใจ ไม่มีคว่ามสุข และผลสุดท้ายเราก็ต้องหางานใหม่ทำอยู่ดี
ถึงผลสัมภาษณ์ครั้งนี้จะผ่านหรือไม่ผ่านก็ตาม แต่มันทำให้เราได้อะไรกลับมาเยอะมากเลย
และเราคงไม่เลือกงานนี้เพราะ มาคิดๆดูมันไม่คุ้มกับค่าที่พัก ค่าเดินทางเลย เดือนนึงไม่เหลือเงินให้เก็บ
ซึ่งมันก็ให้อารมณ์แบบหาเช้ากินค่ำนั่นแหละ แถมต้องให้แม่ออกรถให้อีก ขับก็ยังไม่เป็น
อนาคตการสัมภาษณ์และสอบข้อเขียนจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น คงต้องให้ฟ้าดินลิขิตแล้วล่ะ
Fighting !!!
สู้ ๆ นะคะ
ตอบลบความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นค่า
อยากทราบสวัสดิการ โอที เบี้ยขยัน โบนัส หน่อยครับ
ตอบลบmaethasit_pope@hotmail.com
ผมสัมภาษณ์กับมาดามเตียวและคุณวีระ ครับทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ใช้เวลาสัมภาษณ์รวดเดียวเกือบ4 ชั่วโมงแต่ก็ผ่านครับ
ตอบลบเงินเดือน12000บ้าไปแล้ว...
ตอบลบ